นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตรจังหวัดสุรินทร์ ภายใต้นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ณ บริเวณตลาดนัดโค-กระบือ ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้น เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืน ส่งเสริมให้เกษตรกรมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเกษตรโดยตรงถึงผู้บริโภค ลดปัญหาพ่อค้าคนกลาง เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ส่งเสริมการรวมกลุ่ม การพัฒนาคุณภาพสินค้า รวมทั้ง ยกระดับมาตรฐาน สินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัย และมีความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมี นางศศิมาภรณ์ พันธโคตร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
กิจกรรมประกอบด้วย การประกวดไก่พื้นเมือง 3 ประเภท ได้แก่ ไก่เหลืองหางขาวเพศผู้ ไก่ประดู่หางดำเพศผู้ และไก่พื้นเมืองคละสี การแสดงพันธุ์สัตว์ ได้แก่ โควากิว กระบือพ่อพันธุ์ แพะ และไก่พื้นเมือง การมอบป้ายรับรอง “ร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัย เลือกใช้สินค้า Q (Q - Restaurant)” การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพจากกลุ่มเกษตรกร
ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และการจัดแสดงสินค้า “เนื้อสุรินทร์ GI” สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จังหวัดสุรินทร์ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์
ทั้งนี้ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ กล่าวมอบนโยบา พบปะประชาชน มอบป้ายรับรองโครงการร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q (Q-Restaurant) และโครงการส่งเสริมการบริโภคและใช้วัตถุดิบสินค้า Q มอบรางวัลการประกวดไก่พื้นเมือง และมอบปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมพันธุ์สัตว์ (โควากิว กระบือ พ่อพันธุ์ แพะ ไก่พื้นเมือง เยี่ยมชม ตลาดนัดสินค้าเกษตร และ ร่วมชิมเนื้อสุรินทร์ GI
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรในทุกมิติ ทั้งการยกระดับมาตรฐานสินค้า การเพิ่มศักยภาพการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการขยายช่องทางการตลาด ซึ่งการจัดโครงการตลาดนัดสินค้าเกษตร ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป
